แนวโน้มการเติบโตในเอเชียกำลังพัฒนาได้ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ปี 2561 เนื่องจากความตึงเครียดด้านการค้าโลกที่เพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการระบาดของ COVID-19 การระบาดใหญ่ได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คน เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ จำนวนมากในกลุ่มความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-ล้านช้าง (MLC) ผลกระทบทางเศรษฐกิจได้ทำให้โอกาสต่างๆ ของตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงลดน้อยลง โดยเฉพาะในระดับประเทศ ธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง (MSMEs) มีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการฟื้นตัวจาก ภาวะหดตัวทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนใน MMC

        ในประเทศกำลังพัฒนา MSMEs (วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่และถือเป็นกำลังสำคัญในการสร้างงาน การเติบโตทางเศรษฐกิจ การบรรเทาความยากจน และการส่งเสริมการพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืน โดยสรุปแล้ว สิ่งนี้สร้างแรงผลักดันเชิงบวกสำหรับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นพร้อมความเสมอภาคที่มากขึ้น MSMEs เป็นกระดูกสันหลังและ “เครื่องยนต์การเติบโต” ที่สำคัญในอาเซียน โดยคิดเป็นประมาณ 96% ขององค์กรทั้งหมด โดยเฉพาะ ในกัมพูชา สปป. ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม (กลุ่มประเทศ CLMV) นอกจากนี้ MSMEs ยังถือเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนที่สำคัญต่อการจ้างงานและ GDP ในห้าประเทศ ได้แก่ ไทย จีน กัมพูชา สปป. ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม